หนังซอมบี้ Zombieland 2 Double tap อิทธิพล ที่ได้รับมาจากภาคเก่า

หนังซอมบี้ Zombieland 2 Double tap ในช่วงนี้ ใครที่อยากจะหยิบหนัง ที่เข้ากับสถานการณ์ โรคระบาดเชื้อไวรัส ดูแล้วละก็ เราต้องย้อนไป ในปี 2019 ที่ผ่านมานั้น นับว่าเป็นอีกปีเลย ทีเดียวที่มี หนังแนวเสียดสี แต่ไฮไลท์ที่น่าจับตามอง ก็คือภาพยนตร์เรื่อง Zombieland 2 มาในชื่อ Double tap หนังภาคต่อ Zombieland หลังจากที่ไม่ได้มีภาคต่อ มายาวนานถึง 10 ปี 

เราจึงอยากจะขอ Review หนังซอมบี่้ เรื่องนี้ให้ทุกคน ได้รู้สึกสนุก กับหนังเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ในภาคนี้ยังคงความเป็น หนังตลก ได้เป็นอย่างดี เหมือนภาคก่อน ที่ใช้วิธีขยี้ตัวละคร ในทุกๆเหตุการณ์ เพื่อให้สถานการณ์ ที่กำลังตึงเครียด กลับกลายเป็นเรื่องที่ตลกได้ Spy สปาย

ซึ่งภาคต่อก็ยังทำหน้าที่ ได้ดีอยู่เช่นกัน ยังคงคอนเซ็ป หนังล้อเลียน ที่เรียกได้ว่า เล่นดาราตลกรุ่นใหญ่อย่าง บิล เมอร์เรย์ กันมาแล้ว ส่วนเรื่องวิธีการ ทลายกำแพงหนัง Break the Fourth Wall ตัวละครทลายกำแพงที่ 4 ตัวละครกำลังพูดคุยกับคนดู

เพื่อให้เรารู้สึกมีส่วนร่วม กับเนื้อเรื่องชวนติดตาม และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ฉากยิงซอมบี้ที่โหด ดิบ เถื่อน และชวนอ้วกได้ตลอดเวลา ซึ่งนับเป็นซิกเนเจอร์ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ มีความน่าสนใจ มาตั้งแต่ภาคแรกแล้วนั้นเอง

หนังซอมบี้

หนังซอมบี้ Message ที่สื่อสารกับคนดู ในเชิงการกระทำ ของตัวละคร

สิ่งที่หนังเรื่องนี้ พยายามจะเล่าตลอดทั้งเรื่องนั้น ก็คือเรื่องของครอบครัว เหมือนในประโยคหนึ่งของตัวละคร ที่พูดเอาไว้ว่า ‘’บ้านไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นคนที่อยู่ด้วย” ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ไปที่ไหนก็แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึง ความเป็น หนังครอบครัว กันตลอดทั้งเรื่อง

ถึงแม้บ้างตัวละคร จะมีความรู้สึกผลักดันก้าวต่อ แต่ก็ไม่มีสายสัมพันธ์ไหน เท่าพวกเขากลุ่มนี้ ที่ผูกเรื่องราวทั้งหมด เอาไว้ด้วยกัน และสิ่งหนึ่งที่ตัวละครเอก มักชอบพูดบ่อย ๆ นั้นก็คือกฎ หนังได้สอดแทรก เรื่องของกฎอยู่ตลอด

ไม่ว่าโลกจะมีแต่ซอมบี้ และกลุ่มคนที่หลากหลาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีชีวิตรอด นั้นก็คือการมีกฎ หากชีวิตดำเนินไป อย่างไร้กฎเกณฑ์ ก็จะพาไปถึงจุดจบได้ พูดถึงการใช้ชีวิต ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรค ในโลกเหตุการณ์สมมุติ ที่มีเหล่าซอมบี้ แต่ถึงยังไงหนังก็ยังแฝง กำลังใจดี ๆ ในการใช้ชีวิตของเรา

บทสนทนาในเรื่องนี้ มีส่วนสำคัญ ตัวละครจะพูดตามในสิ่งที่คิด หรือแม้แต่ความคิด ของตัวละครเอก ยังบอกกับเราคนดูเลย ว่าเขารู้สึกยังไงอยู่ในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่อยู่รอบตัวละคร สามารถนำมารวมเข้ากัน ผ่านมุขตลกเสียดสี และด้วยการแสดง ทำให้ดูเป็นหนังซอมบี้ตลก ที่ดีเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ 

โลกจินตนาการ ภายในเรื่อง Zombieland 2 Double tap

บรรยากาศภาคนี้ เป็นโลกที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง หญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด แต่ที่ส่วนทางกันก็คือ ภายในสิ่งปลูกสร้างจะดูปกติ ข้าวของเครื่องใช้ ดูเป็นส่วนตัว ของตัวละครในเรื่อง บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สถานที่หรือสิ่งของต่าง ๆ

เป็นมุกเสียดสีบุคคลสำคัญ มีชื่อเสียง ตามสไตล์ผู้กำกับอย่าง Ruben Fleischer ได้ทำเอาไว้ในภาคก่อน จนเป็นที่จดจำกัน ซอมบี้เองในภาคนี้ มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ทำให้เหล่าตัวละครทั้งหลาย ต้องเจอกับความท้าทาย ในรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยพบมาก่อนในภาคแรก

แล้วก็การจินตนาการ ออกแบบวิธีการฆ่าซอมบี้ต่าง ๆ ที่สุดแสนจะพิสดาร ถือว่าเป็นมุกเฉพาะของ ซอมบี้แลนด์ เลยก็ว่าได้ ภาคนี้ไม่ได้เน้นที่การฆ่าซอมบี้แต่เพียงอย่างเดียว ในภาคนี้ยังเล่าถึงการโหยหาความสงบสุข ตามพื้นที่ต่าง ๆ

จนกระทั่งตัวละครเองได้รู้ว่าที่ๆบ้างที่ ก็ไม่ใช่บ้านของเรา หากต้องฝืนเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ใช่ ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร นี้คืออีกจินตนาการหนึ่งของผู้กำกับ ต้องการที่จะตั้งคำถาม กับปัญหาหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ผ่านการเล่ามุมมองแบบ Bad joke ที่ไม่รุนแรงแต่อมยิ้มได้ตลอด

สิ่งที่น่าพูดถึง สำหรับหนังเรื่องนี้

สีสันของหนังเรื่องนี้ สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย นั้นก็คือความปั่นประสาท ของหนังเรื่องนี้ ทุกบทสนทนา ล้วนเป็นมุขตลกทั้งนั้น ทุกตัวละครมีบทบาทของตัวเอง การโต้กลับกัน ของบทสนทนาน่าสนใจ รวมไปถึงการแสดง ทีมีความ Aggreassive ขึ้น ๆ ลง ๆ ซีนดราม่ากำลังพาเศร้า ก็ดันมีเหตุการณ์เกิดขึ้น

เรียกได้ว่าตัดอารมณ์ได้ดีทีเดียว ใครที่เป็นแฟนบอยหนังซอมบี้ ต่างก็คาดหวังได้เห็นฝูงซอมบี้ โดนสาดกระสุน ในภาคต่อนี้ จะเป็นมากกว่าการที่ซอมบี้ โดนยิงเพียงอย่างเดียว เพราะในการยิงซอมบี้แต่ละที จะแฝงความตลก และทะเล้นของตัวละคร

จังหวะที่ได้เห็นซอมบี้ ถูกปืนลูกซองยิงหัว เละก็ยังมีให้เห็น ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จ ของหนังซอมบี้ ที่เอามาทำใหม่ ให้ได้ดีกว่าเดิม แฟนบอยหนังซอมบี้ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ได้เห็นวิธีเล่าเรื่องในแบบ comedy ผสม thriller ออกมาได้อย่างลงตัว 

หนังซอมบี้

คนดูจะได้อะไรกลับมา จากหนังเรื่องนี้ ?

สิ่งที่ได้รับอย่างแน่นอนเลย ก็คือความบรรเทิง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรอการกลับมา ก็คือการได้เห็นพวกเขา กลับมาทำอะไรบ้า ๆ ด้วยกัน และได้เห็นวิวัฒนาการ ของตัวละคร 10 ปี ผ่านไปแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ตัวของนักแสดงเอง ก็มีการเติบโตตามวัย

ขนาดภายในเรื่องเอง ยังมีพูดถึง การเปลี่ยนผ่านช่วงวัยรุ่น เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ หน้าที่และความรับผิดชอบ ที่จะมีมากขึ้น ทุกอย่างล้วนดูจริงจังมากขึ้น หนังยังสร้างพื้นที่ ให้คนดูคอยติดตามตัวละคร ได้อย่างใกล้ชิด และเป็นกันเอง

ซึ่งหากถ้าคุณเป็นคนรู้จักคนดัง ระดับโลกพอสมควร ก็จะเข้าใจมุกต่าง ๆ ในหนังได้โดยง่าย ถือว่าเป็นหนัง ที่สร้างจักรวาลของตัวเองได้สนุก ถ้าพูดถึงชื่อ Zombieland แล้วย่อมเป็นที่รู้จักกันดี ในเรื่องของความปั่น และความกาวของตัวละคร

สุดท้ายแล้วคนดูจะได้อะไร ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของทุกคน ที่จะได้อะไรกลับคืนมาหลังจากที่ได้ดู จะสนุกหรือปนน้ำตา แต่อย่างหลังนิไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเนื้อเรื่องทำออกมาเน้นสนุก หากต้องการหาหนังดู ในช่วงโรคระบาดแบบนี้ เรื่องนี้ถือว่าตอบ ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง

จึงทำให้ airheads.net มองว่าหนังเรื่องนี้ สร้างทรรศนะคติบวก ให้กับคนดูอยู่ตลอดเวลา อย่ากลัว หรือตกใจกับปัญหา เราก็แค่มีสติ และไม่เครียดไปกับมัน ชีวิตมีกฎเกณฑ์ ยึดเป็นหลักไม่เกิดการประมาท ทั้งหมดที่ในหนัง ได้ว่ามาก็เหมือนพูดถึงการใช้ชีวิต ที่มีสถานการณ์เป็นตัวกำหนด

ไม่ว่ายังไงเราทุกคนต้อง มีกฎเกณฑ์ใช้ร่วมกัน เพื่อความสงบสุข ในช่วงเครดิตก็ยังเซอร์ไพร์ทุกคน ด้วยเหตุการณ์ก่อนที่ จะเริ่มภาคแรก ด้วยดาราคนดังอีกด้วย นับว่าภาคนี้มีอะไรใหม่ ที่เพิ่มเติมจากภาคเดิม ได้ความบันเทิงที่มากยิ่งขึ้น

เว็บรีวิวหนัง

UFABET

แทงบอลออนไลน์

หนังคอมเมดี้