catch me if you can คือ หนังดราม่า อาชญากรรม ที่สร้างมาจากเรื่องจริง ของอดีตนักต้มตุ๋นคนดัง

catch me if you can ผู้ที่ใช้ความฉลาด และพรสรรค์ในการสร้างเสียหาย หลายล้านดอลลาร์ จากการปลอมแปลงเช็ค ซึ่งนื้อหาหลักในภาพยนตร์นั้น จะเป็นการดัดแปลง มาจากหนังสือ เกี่ยวกับชีวประวัติของ แฟรงก์ อบาเนล อดีตนักต้มตุ๋นชื่อดังในอดีต ผู้ที่มีความสามารถหลอกหลวงผู้อื่น การสร้างตัวตน และแอบอ้าง เพื่อเป็นใครก็ได้

ไม่ว่าจะเป็น นักบิน แพทย์ หรือทนายความ โดยในภาพยนตร์นั้น จะเป็นการเล่าเรื่องราว ผ่านสองตัวละคร สองมุมมองคือฝ่ายของตัว อบาเนล กับมุมมองของหน่วย FBI ที่ติดตามตัวของอบาเนล ซึ่งก็จะเล่าเรื่องราวทั้งหมด เริ่มต้นแต่วัยรุ่น จนเข้าสู่วงการ และกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง ผลงานชิ้นเอก ของผู้กำกับหนังชื่อดังแห่งวงการ หนังฮอลลีวูด อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก เลยก็ว่าได้ เพราะตัวหนัง สามารถทำออกมาได้อย่างครบรส และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ทั้งในแง่ของรายได้ และคําวิจารณ์

และนอกจากการได้เนื้อเรื่อง จากหนังสือชื่อดัง และกำกับภาพยนตร์โดยผู้กำกับดังแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้รวบรวมเอานักแสดง ระดับซุปเปอร์สตาร์ของวงการ อย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และทอม แฮงก์ส มาแสดงร่วมกันอีกด้วย จึงสามารถการันตีได้เลยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป้น หนังดี ๆ ที่ครบรสอย่างแน่นอน

catch me if you can

catch me if you can กำกับภาพยนตร์โดย สตีเวน สปีลเบิร์ก พ่อมดแห่งวงการ หนังฮอลลีวูด

ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ 3 ครั้ง ที่สร้างหนังดัง ๆ ระดับตำนานมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น หนังสงคราม อย่าง Saving Private Ryan หรือ หนังแฟนตาซี ไซไฟ เรื่องดังอย่าง E.T. the Extra-Terrestrial นอกจากนี้สปีลเบิร์ก ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับ 22 Jump Street

ที่สามารถที่สร้างหนัง ที่หนังรายได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยตัวเลขสูงถึง 10,504 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการนับรวม เอารายได้ทั้งหมด จากภาพยนตร์ที่ตัวเขากำกับ ด้านบทของภาพยนตร์นั้น นับได่ว่าเป็น หนังดัดแปลงจากหนังสือ ที่ใช้ชื่อเดียวกับภาพยนตร์

ซึ่งเขียนโดยตัวของ แฟรงก์ อบาเนล ซึ่งเป็นตัวละครหลักในเรื่องเอง ซึ่งก็ได้นักแสดงนำ ชื่อดังแห่งวงการ มาร่วมแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงนำจาก หนังโรแมนติก ระดับตำนานเรื่อง Titanic

ทอม แฮงส์ เจ้าของออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก หนังออสการ์ อย่าง Forrest Gump และคริสโตเฟอร์ วอลเคน จาก หนังแอคชั่น อย่าง Last Man Standing มาร่วมแสดง 

เรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้น โดยการเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1969 เมื่อเจ้าหน้าที่ คาร์ล แฮนแร็ทตี้ (รับบทโดย ทอม แฮงส์) เดินทางไปยังเรือนจำฝรั่งเศส เพื่อรับตัว แฟรงค์ อบาเนล ไปยังสหรัฐอเมริกา Self/less

จากนั้นจึงเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ ย้อนหลังไปในช่วงที่ แฟรงค์ อบาเนล (รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 16 ปี ที่กำลังอาศัย อยู่กับพ่อของเขาที่นิวยอร์ก ซึ่งต่อมาครอบครัวของเขา เริ่มมีปัญหาเรื่องการทุจริตภาษี

จึงทำให้ครอบครัวของเขา ต้องย้ายออกไปยังอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ พร้อมกับสร้างความตึงเครียด ภายในครอบครัว เมื่อครอบครัวเริ่มแตกแยก ตัวของแฟรงค์ ก็ได้ตัดสินใจที่จะออกไปใช้ชีวิตข้างนอก

แต่ในเมื่อไม่มีเงิน จึงทำให้เขาต้องเริ่มใช้ชีวิต ด้วยการเข้าสู่วงการนักต้มตุ๋น ที่เริ่มหาเงินจากการ ปลอมมแปลงเอกสาร เช็ค และสมัครเป็นทำงาน เป็นอาชีพต่าง ๆ มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นทั้ง นักบิน หมอ ทนายความ จนเริ่มสร้างความเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้คาร์ล แฮนแร็ทตี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย FBI เริ่มทำการติดตาม และพยายามที่จะจับตัวของแฟรงค์ ให้จงได้ The Wolf of Wall Street Sleepy Hollow

catch me if you can

ภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้ สูงเป็นอันดับที่ 11 จากภาพยนตร์ทั้งหมดในปี 2002

ด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลก สูงมากถึง 352,114,312 ดอลลาร์ จากทุนสร้างเพียง 52,000,000 ดอลลาร์ จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จในด้านของรายได้ เป็นอย่างสูง

ซึ่งภาพยนสตร์เรื่องนี้เอง ก็ได้รับเรท PG13 ในการเข้าฉาย โดยอาจจะมีเนื้อหา เกี่ยวกับเรื่องเพศ และภาษาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ ที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกคน เพราะตัวหนังเอง ก็ได้ให้ข้อคิด และมุมมองต่าง ๆ ที่ดีอยู่เช่นกัน The Uninvited

หนังน่าทึ่งที่ทำให้ความยาวกว่า 2 ชั่วโมงของหนัง ดูได้อย่างไม่น่าเบื่อเลย

นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ airheads.net บอกได้เลยว่า ไม่ควรที่จะพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะสามารถพูดได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เป็นหนึ่งในหนังชีวประวัติ ที่ดีที่สุด ที่เคยมีมาเลยทีเดียว

ไม่เพียงแต่เฉพาะเรื่องของบท และเนื้อหาในภาพยนตร์ ที่น่าสนใจ มีครบทั้งเรื่องตลก และดราม่า แต่ยังรวมไปถึงนักแสดง ที่สามารถแสดงได้ถึงบทบาท โดยเฉพาะตัวดิคาปริโอ ที่สามารถแสดงบทบาทของแฟรงค์ อบาเนล ได้อย่างยอดเยี่ยม มีเสน่ห์ และมีความโดดเด่น Mad max Fury road

นอกจากนี้การดีไซน์ฉาก คอสตูมต่าง ๆ และงานโปรดักชั่น ให้เห็นถึงภาพในช่วงยุค 60 นั้น ยังสามารถทำออกมา ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยถึงแม้เนื้อหาในภาพยนตร์ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคลุมเครือ ทางด้านศีลธรรม

แต่กลับสามารถนำมาดัดแปลง จนกลายเป็นจุดที่น่าสนใจ ได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่ง ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในหนัง ที่ตัวหนังต้องการจะสื่อออกมา ก็คือด้านทัศนคติ และวิธีการคิดต่าง ๆ ของตัวละครหลัก อย่างแฟรงค์

ที่สามารถทำให้เรานำมาปรับ และใช้พัฒนาตัวเองได้ จึงทำให้โดยรวมแล้ว นี่เป็นภาพยนตร์ที่มีความสนุก และทำออกมาได้อย่างดี ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นผลงานชิ้นเอก เท่าภาพยนตร์เรื่องอื่น ของสปีลเบิร์ก แต่ก็ยังนับได้ว่าเป็นอีกภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม

รีวิวหนัง

UFABET

แทงบอลออนไลน์

The Hunger Games