Click คลิก รีโมตรักข้ามเวลา หนังคอมเมดี้ ดราม่า ที่จะมอบบทเรียนชีวิต ถึงสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถย้อนคืนได้

Click คลิก รีโมตรักข้ามเวลา คือภาพยนตร์ที่ได้เข้าฉายตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งก็เป็นหนังเหมาะกับการดูกับครอบครัว อีกเรื่องเลยทีเดียว โดยนอกจากจะเป็นหนังคอมเมดี้แล้ว ยังมีความเป็น หนังครอบครัว ที่ผสมกับความแฟนตาซีอีกหน่อย ๆ มาพร้อมด้วยการเล่าเรื่อง ถึงแนวคิดที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝัน อย่างเช่นการหาวิธีที่จะทำให้เราเกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น

การสามารถเร่งเวลา ในช่วงที่เราอยากให้ผ่านไปเร็ว ๆ การหยุดเวลาที่อยากจะจดจำไปนาน ๆ และการข้ามช่วงเวลา ไปในช่วงชีวิตที่เรา ประสบความสำเร็จไปแล้ว ซึ่งพล็อตเรื่องก็จะเล่าถึงครอบครัวหนึ่ง ที่ตัวสามีผู้นำครอบครัวนั้น เป็นคนบ้างาน และมีความมุ่งมั่น Valerian

ที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวของตนเอง ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้ และโชคชะตาก็เหมือนจะเข้าข้างเขา เมื่อเขาบังเอิญได้รับรีโมทวิเศษ ที่สามารถช่วยให้เขา ข้ามผ่านช่วงเวลา ที่ยากลำบาก ไปจนถึงช่วงเวลา ที่เขาประสบความสำเร็จได้ในทันที

แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ได้มอบบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญ ให้แก่เขาเช่นกัน ซึ่งบอกได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ปูออกมาได้ดี จนเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีทั้งมุมตลก

และมุมซึ้ง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้เรา ได้ลองกลับมามองย้อนดูถึงความสำคัญ ของช่วงชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราอาจจะเคยมองข้าม และละเลยความสัมพันธ์บางอย่างไปหรือเปล่าอีกด้วย

Click คลิก รีโมตรักข้ามเวลา กำกับภาพยนตร์โดย แฟรงก์ โคราซี ผู้กำกับจาก หนังดนตรี คอมเมดี้ The Wedding Singer

โดยนักแสดงนำหลัก ๆ ในเรื่อง ได้แก่

อดัม แซนด์เลอร์ นักแสดงจาก หนังโรแมนติก คอมเมดี้ เรื่อง 50 First Dates มารับบทเป็น ไมเคิล นิวแมน

เคต เบ็กคินเซล นักแสดงจาก หนังแอคชั่น แฟนตาซี เรื่อง Underworld มารับบทเป็น ดอนน่า นิวแมน

คริสโตเฟอร์ วอลเคน นักแสดงจาก หนังอัตชีวประวัติ อาชญากรรม เรื่อง Catch Me If You Can มารับบทเป็น มอร์ตี้

เดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ นักแสดงจาก หนังกีฬา คอมเมดี้ เรื่อง Dodgeball มารับบทเป็น จอห์น แอมแมร์

เฮนรี่ วิงก์เลอร์ นักแสดงจาก หนังผจญภัย คอมเมดี้ เรื่อง Holes มารับบทเป็น เท็ด นิวแมน

เรื่องราวในภาพยนตร์เล่าเริ่มต้นขึ้น โดยเล่าถึงครอบครัวของ ไมเคิล นิวแมน สถาปนิกผู้ซึ่งมีบทบาทเป็นทั้งพ่อ และสามี

ชีวิตของไมเคิลที่ดูเหมือน ๆ กับครอบครัวปกติทั่ว ๆ ไป เป็นผู้นำครอบครัว ที่มีความมุ่งมั่น หวังที่จะสร้างให้ชีวิตครอบครัวของตนเองดีขึ้นให้ได้ จึงมักจะให้ความสำคัญ กับงานก่อนเป็นอันดับแรก แต่จนแล้วจนรอดหน้าที่การงานของเขา ก็ไปได้ไม่ดีสักเท่าไหร่

จนกระทั่งวันหนึ่ง ไมเคิลได้รับรีโมทวิเศษมาจากชายที่ชื่อว่า มอร์ตี้ ซึ่งสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเขา ได้ไม่ต่างจากการดูโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นการเร่ง การเปลี่ยนภาษา การปิดเสียง การหยุด การกรอไปข้างหน้า

และระบบอัตโนมัติ ซึ่งตัวเขาก็ได้ใช้มันเพื่ออำนวยความสะดวก ในชีวิตการทำงานอย่างเต็มที่ จนสุดท้ายปัญหาต่าง ๆ ก็กดดันให้เขาตัดสินใจใช้รีโมท ในการข้ามช่วงเวลาไปจนถึงตอนที่เขาได้เลื่อนตำแหน่ง

ซึ่งมันก็กินเวลาไปนานนับปี ช่วงเวลาที่ผ่านมาระหว่างการข้ามเวลาทำให้ไมเคิล มีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวน้อยลง และพลาดช่วงเวลาสำคัญไป ในขณะที่ลูกทั้งสองคนของเขาค่อย ๆ เติบโตขึ้น อีกทั้งระบบอัตโนมัติของรีโมท ยังทำให้เขาต้องพลาดช่วงเวลาสำคัญของชีวิต โดยไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

Click คลิก รีโมตรักข้ามเวลา หนังตลกที่ใช้ทุนสร้างสูงถึง 82,500,000 ดอลลาร์

ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาเลย สำหรับหนังคอมเมดี้ แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังประสบความสำเร็จทางด้านรายได้อยู่ไม่น้อย โดยสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปสูงถึง 240,685,326 ดอลลาร์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนังที่สามารถทำรายได้ สูงที่สุดของตัวผู้กำกับอย่างแฟรงก์ โคราซี เลยทีเดียว

อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่การันตีถึงคุณภาพ นอกเหนือจากงบประมาณ ได้เลยทีเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ได้รับเรทเข้าฉายที่ PG-13 ซึ่งสามารถรับชมได้ทุกเพศ ทุกวัย

ถึงแม้ว่าเรื่องมุกตลก จะมีมุกที่ดูค่อนข้างหยะแหยง และดูเกรียน ๆ ไปบ้างก็ตาม โดยมุกตลกต่าง ๆ จะไม่ได้มาจากมุกตลกท่าทาง เสียงร้อง หรือมุกที่ใส่เข้ามาแบบไม่มีเหตุผล ของนักแสดงตลกอย่าง อดัม แซนด์เลอร์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในหนังตลกเรื่องผ่าน ๆ มา

แต่จะให้ความรู้สึกเป็นคอมเมดี้ ที่เกิดจากการพัฒนาเรื่อง ซึ่งด้วยความที่ใช้ทั้งนักแสดงตลก มาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ประกอบกับตัวอย่างหนัง อีกทั้งวิธีการปูเรื่องที่อัดความเป็นหนังตลกมาตลอดช่วงแรก

จนทำให้ดูเหมือนจะเป็นหนังที่ทำเอาฉายความตลกเพียงอย่างเดียว แต่พอถึงฉากไคลแมกซ์ที่ได้รู้ถึงสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ ก็กลับให้ความรู้สึกซึ้ง และสะเทือนใจออกมาเกินคาดอยู่เหมือนกัน

หนังที่นำเสนอปัญหาที่แท้จริง ของความรับผิดชอบในชีวิตของผู้ใหญ่

ซึ่งหากสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้จริง ๆ แน่นอนว่าใครหลาย ๆ คนก็คงจะเลือกทำเช่นกันกับพระเอกของเรื่อง โดยปัญหาเรื่องความสำพันธ์ในครอบครัว ที่เกิดจากการละเลย และการเลือกงานมาก่อนเป็นอันดับแรก นั้นเป็นปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ครอบครัว

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เสนอออกมาให้เห็นถึงความสำคัญ และการให้ความสำคัญกับครอบครัว แบบไหนถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง โดยถึงแม้จะมีจุดประสงค์ ของการทำงานหนักของไมเคิลนั้น ก็ต้องการทำเพื่อความครอบเช่นกัน

แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของคำว่าครอบครัวนั้นคืออะไรกันแน่ โดยหลาย ๆ คนแล้ว หลังจากที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ก็อาจจะเปลี่ยนมุมมอง ออกไปจากเดิมบ้าง ด้วยคำที่ว่า ครอบครัวต้องมาเป็นอันดับแรก

คำพูดซึ่งเกิดจากประสบการณ์ ของตัวละครหลัก แต่ปัจจัยสำคัญจริง ๆ นั้น ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุกสนาน ตามที่เห็นในหนังเพียงแค่อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องความลำบาก ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงอยู่เช่นกัน ที่ www.airheads.net มองว่าหนังเรื่องนี้นั้นคล้าย ๆ กับการเป็นหนัง นิทาน ที่เล่าเรื่องสุดคลาสสิค

ที่ตั้งใจจะแฝงข้อคิด เรื่องการมองเวลาให้เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด และเลือกทำสิ่งที่มีคุณค่า และสิ่งที่ดีที่สุดจริง ๆ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เห็นในหนัง มันดูง่ายเกินกว่าในชีวิตจริง แต่ถึงอย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เป็นหนังตลกที่มีความน่าสนใจอยู่เช่นกัน

ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่่มีความจริงจัง และเรียลเกี่ยวกับปัญหาครอยครัวที่เกิดจริง ๆ ความสมดุลระหว่างครอบครัว และงาน ผ่านบทบาทของคนที่ให้ความสำคัญกับงาน และต้องการประสบความสำเร็จมากกว่า ว่าอนาคตแล้วจะเป็นเช่นไร มุมมองของคนในครอบครัวจะเป็นเช่นไร ตัวหนังอาจจะไม่ได้ตลกมากนัก แต่สิ่งที่ได้จากหนังถือได้ว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่คุ้มค่าที่จะดูจริง ๆ

เว็บรีวิวหนัง

UFABET

แทงบอลออนไลน์

Mortal Engines