Alien มี เนื้อเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?
Alien เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ กลุ่มลูกเรือบนยานขนส่ง นอสโตรโม ถูกสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เข้าจัดการเข้าไปแฝงเป็นตัวอ่อน ภายในลูกเรือในยาน จึงทำให้ เอลเลน รับบทโดย ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ ที่เหลือ รอดชีวิตเพียงคนเดียว และได้ตั้งเส้นทางเพื่อที่กลับโลก จากนั้นเธอได้ตั้งโปรแกรมเอาไว้ก่อนที่จะอยู่ในสภาพหลับไหล จนทีมทหารมาพบยานลำนี้เข้า
และได้ทำการปลุกเธอขึ้นมา แล้วสอบถามถึงการเสียชีวิต ของยานที่เธอโดยสารมา แต่เธอกลับไม่ได้พูดอะไร ทีมทหารจึงต้องเดินทางไปยัง ดาวที่มีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เมื่อเหล่าทหารลงจอดยังพื้นดาว ก็ได้ทำการสำรวจ ฐานบนดาวแห่งนี้ ถึงเหตุที่ลูกเรือบนดาวแห่งนี้ หายตัวไปจนหมด จนกระทั่งกลุ่มทหารเอง มาพบเข้ากับรังของเอเลี่ยน
จึงทำให้เกิดการปะทะกัน แต่กลุ่มทหารนั้นไม่อาจทำอะไรกับเอเลี่ยนด้วย เพราะด้วยจำนวนเอเลี่ยนที่เยอะกว่า และร้ายกาจอีกต่างหาก ทำให้ทีมทหารและเอลเลน ต้องเอาชีวิตรอดหนีออกจากดาวแห่งนี้
แต่ด้วยเอเลี่ยนที่มีจำนวนเยอะกว่า จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการ หนีออกจากดาวแห่งนี้ เมื่อนางพญาเอเลี่ยน ที่คอยวางไข่ได้ออกตามล่า เอลเลน และทหารที่เหลือรอด ทำให้ต้องระเบิดสถานนีบนดาวแห่งนี้
เพื่อกำจัดเอเลี่ยนเหล่านี้ให้หมดไป แต่ทว่าตัวนางพญาเอเลี่ยน ได้แอบขึ้นยานมากับเอลเลน และทหารที่เหลือรอดชีวิต จนทำให้เกิดการต่อสู้กัน ทำให้ในที่สุดแล้วเอเลี่ยน ได้ถูกดูดออกจากยานไปในอวกาศ
กว่าจะลากนางพญาเอเลี่ยนตัวนี้ออกไปได้ ต้องสูญเสียทหารไปจำนวนมาก หลังจากฝ่าวิกฤตินี้ไปได้แล้ว เหล่าผู้รอดชีวิตบนดาว อย่างเด็กผู้หญิงที่ถูกช่วยมาบนยาน ตัวอ่อนเอเลี่ยน
ที่ฝั่งอยู่ข้างในร่างกายของเด็ก ได้พยายามจะทะลุอกเธอออกมา เหมือนกับคนอื่นๆบนดาวเคราะห์ที่ โดนกันทุกคน จึงทำให้ยานลำนั้นที่กำลังจะเดินทางกลับโลก มีตัวอ่อนของเอเลี่ยน ติดไปกับยานลำนี้ด้วย
Alien ประวัติ กว่าจะมาเป็นหนังเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?
จุดเริ่มต้นของ มหากาฬของหนังเรื่องนี้ เริ่มต้นมาจาก แดน โอแบนนอน ต้องการที่จะพัฒนาไอเดียดั่งกล่าว หลังจากที่ถ่ายทำหนังเรื่อง ดาร์ก สตาร์ (1974) สำเร็จ เขาต้องการที่จะมองหาอะไร ที่ใหม่และท้าทาย มากกว่าเดิมเพื่อให้จักรวาลเอเลี่ยน ในหัวของเขานั้นมีความน่าสนใจ โครงการนี้ยังได้ โรนัลด์ ชูเชตต์ ร่วมมือในการเขียนบทด้วย
จึงได้ยกไอเดียมาจาก เหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชื่อว่า เกรมลินส์ เป็นเรื่องราวของความโกลาหล บนเครื่องบินทิ้งระเบิด ที่ต้องเจอกับสภาวะที่ไม่เป็นใจ ทั้งคู่จึงได้ใช้ไอเดียนี้
เป็นตัววางโครงเนื้อเรื่อง เพียงจากเปลี่ยนนาซี เป็นเอเลี่ยนนั้นเอง ทั้งสองเขียนเนื้อเรื่องนี้เสร็จ ภายใต้ชื่อว่า สตาร์ บีสต์ จนกระทั่งต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ เอเลี่ยน หลังจากที่เนื้อเรื่องเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งสองได้เอาไปเสนอขายให้กับค่าย ฟอกซ์ เพราะเห็นว่าค่ายนี้เพิ่งประสบความสำเร็จ กับ สตาร์ วอ จึงทำให้เขามั่นใจว่าหนังเรื่องนี้ ค่ายจะต้องลงทุนกับมันแน่นอน ในบทดั่งเดิมนั้น
ลูกเรือทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมด ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็นผู้หญิง แต่ด้วยเหตุบังเอิญจึงทำให้ต้องเปลี่ยนบทนี้ ให้เป็นผู้หญิงแทน ก่อนถ่ายทำ เวโรนิกา คาร์ตไรน์ ถูกเลือกให้แสดงในบท รีปลีย์
แต่ผู้กำกับอย่าง ริดลีย์ สก็อต กลับเลือก ซิกอร์นี่ย์ วี่เวอร์ แทนหลังจากที่เขาทดสอบหน้ากล้อง ตัวเอเลี่ยนเองได้รับการออกแบบจาก เอช อาร์ ไกเกอร์ จิตกรและช่างแกะสลักชาวสวิส
เป็นผู้ออกแบบเอเลี่ยน ร่างโตเต็มวัยและซากยานอวกาศ ขณะที่ เมอบิอุส ศิลปินชาวฝรั่งเศส สร้างรูปลักษณ์ของชุดอวกาศ และ รอน คอบบ์ ออกแบบฉากในการถ่าย ทำหนังเรื่องนี้
Alienสร้าง แรงบัลดาลใจให้กับ หนังเอเลี่ยนเรื่องอื่นๆอย่างไร?
ด้วยความน่ากลัว และสยดสยองของเอเลี่ยนนั้น เป็นภาพที่จดจำของ คนในยุคสมัยนั้นที่รู้สึกฝันร้ายไปกับมัน ด้วยการกำกับของ ริดลีย์ สก็อต ที่สร้างจังหวะของหนัง ให้ชวนติดตามไปกับตัวละคร ที่ต้องเจอกับการโจมตี ของเอเลี่ยนจากทุกทิศทาง และยังสามารถปล่อยตัวอ่อน เข้าไปในร่างกายของคน เพื่อเป็นร่างสำหรับฟักไข่
จึงเป็นภาพที่ดูสยองขวัญอย่างมาก แฟนบอย หนังจักรวาลนี้จะต้อง เข้าใจซีนนั้นอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่หนังเรื่อง นี้ได้ฉายออกไปแล้ว ได้ประสบความสำเร็จและมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ
รวมถึงหนังเอเลี่ยนที่คล้ายๆกับเรื่องนี้ ออกมามากมาย ในช่วงเวลาดั่งกล่าวนั้น กระแสของหนังเรื่องนี้ ได้สร้างฐานแฟนบอยมาหลายทศวรรษ จนถึงปัจจุบันเอง ก็ยังมีคนพูดถึงหนังชุดนี้อยู่
ความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเล่นกับความกดดันอย่างมาก ด้วยการเล่นกับความรู้สึก ที่หนังพยายามจะพาเราให้สงสัย ในตัวละครหุ่นยนต์ ที่มีความคล้ายมนุษย์อย่างมาก แต่มีสีหน้าที่ไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง
จึงนำพาความกดดันทั้งสองอย่าง ระหว่างเอเลี่ยนและหุ่นยนต์ผู้นี้ นับว่าเป็นไอเดียและพล็อตเรื่อง ที่ดูใหม่อย่างมากในยุคนั้น หนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นปรากฎการณ์ใหม่ ของหนัง Sci – fi Horror ในยุคต่อๆมา
ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางเฟรมภาพ หรือจังหวะของหนัง ที่ให้ความรู้สึกบีบหัวใจของเรา นับว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นมาสเตอร์พีช ของผู้กับกับอย่าง ริดลีย์ สก็อต เลยก็ว่าได้
ต่อมาจักรวาลของ Alienเป็นอย่างไรบ้าง?
ความประสบความสำเร็จของ Alienในภาคแรกนั้น ค่ายยังไม่ได้สร้างภาคต่อในทันที แต่เป็น เจมส์ แคเมรอน ได้สนใจที่จะทำภาคต่อนี้ หลังจากที่ได้ ประสบความสำเร็จไปกับ คนเหล็ก 2029 แคเมรอน และ เกล แอนน์ เฮิร์ด ได้รับการอนุมัติให้สร้างภาคต่อ จึงได้มีกำหนดฉายในปี ค.ศ. 1986 โดยภาคนี้ แคเมรอนได้พัฒนาบท ต่อยอดจาก ไกเลอร์ และ วอเตอร์ฮิลล์
หลังจากฉายภาคที่สองไปแล้ว วีเวอร์ ปฎิเสธที่จะกลับมารับบทเดิม ทำให้ทางค่ายต้องสร้างภาคต่อ โดยที่ไม่มีตัวละครรีปลีย์ แต่ทางค่ายไม่อาจยินยอมได้ จึงได้เสนอเงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และให้ชื่อเป็นผู้อำนวยการสร้าง เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล ทำให้ภาคต่อนี้ตัวละคร ริปลีย์ยังคงอยู่ต่อ แต่ก็มีปัญหาในการถ่ายทำ อย่างการ ถ่ายหนังโดยที่บท ยังไม่เสร็จสมบูรณ์และได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์
ทำให้ทางค่ายเองต้องปลด ไกเลอร์ และให้ เดวิด ฟินเชอร์ เป็นผู้สานงานต่อ หลังการถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1991 สตูดิโอได้นำกลับมาทำใหม่ โดยที่ไม่มี เดวิด ฟินเชอร์ เป็นส่วนเกี่ยวข้อง จึงทำให้ภาคนี้
ตัวละครอย่างริปลีย์ จึงตายลงในภาคนี้ นับว่าเป็นการตายของตัวละครหลัก ที่สร้างชื่อให้กับหนังเรื่องนี้ลง หลังจากภาคที่ 3 ออกฉายเหล่าแฟนบอย และนักวิจารณ์ กลับไม่ชอบภาคนี้เอาซะเลย แต่ทางด้านรายได้กลับ สวนทางกับคำวิจารณ์ แต่สามารถกวาดรายได้จากทั่วโลก และในภาคสี่นี้เอง ที่ได้ชุปตัวละคร ริปลีย์ ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ทางค่ายได้เสนอ เงินถึง 11 ล้านดอลลาร์
ด้วยการใส่ไอเดีย เป็นร่างโคลนนิ่งที่ฟื้นคืนชีพให้กับตัวละครนี้ ระหว่างการถ่ายทำ ก็ประสบกับปัญหาตลอดเวลา ภายใต้การกำกับ ฌอง ปิแอร์ จูเนต์ และฉายในปีค.ศ.1997 ภาค นี้นับว่า
เป็นจุดตกต่ำสุดของหนังชุดนี้เลยก็ว่าได้ ด้วย เจมส์ วีดอน คนเขียนบทได้ออกมากล่าวด้วยตัวเองว่า ทำทุกอย่างผิดไปจากบทของเขาอย่างมาก หลังจากโปรเจคนี้ถูกพักไปในเวลาเกือบ 10 ปี ริดลีย์ สก็อต
ได้กลับมาสานต่อโปรเจคเดิม ที่เขาตั้งต้นเอาไว้ ได้ออกมาสองภาค มีชื่อว่า โพรมีธีอุส (2012) และ เอเลี่ยน โคแวนแนนท์ (2017) โดยสองภาคหลังนี้ อยู่ในจักรวาลเดียวกับเอเลี่ยน ที่พาย้อนไปยังจุดกำเนิดของมัน นับว่าการเดินทางของหนังชุดนี้ เดินทางมาอย่างยาวนาน ผ่านอะไรมาอย่างโชกโชน จนเป็นตำนานถึงทุกวันนี้
สรุปสิ่งที่ได้จากการดู Alienเป็นอย่างไรบ้าง?
นับว่าเป็นหนัง Sci – fi Horror ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทางด้านรายได้และความทรงจำ ที่เติมเต็มในวัยเด็ก ความอมตะของตัวละครเอเลี่ยน ที่ใครเห็นต่างก็ต้องรู้จักตัวละครนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่หนังได้ทำงาน ในตัวของมันที่สร้างประสบการณ์ ให้กับคนดูที่รู้สึกไปกับหนังเรื่องนี้ จึงทำให้ภาคแรกนี้ ดูเป็นภาคที่คลาสสิคและดีที่สุด ในหนังชุดนี้นั้นเอง หากใครชื่นชอบหนัง Sci – fi Horror นับว่าห้ามพลาด
จึงทำให้มองว่า หนัง Alienเป็นหนังที่สร้างประสบการณ์ร่วม ให้กับใครหลายคนทั่วโลก นิยามของตัวละครและคาแร็กเตอร์ ได้สร้างความน่ากลัวให้กับคนดูโดยทั่วไปในยุคนั้น
ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะเก่าอย่างมาก แต่ด้วยความคลาสสิคของหนัง กาลเวลาก็ไม่อาจทำให้คุณภาพของหนัง ลบเลือนไปได้ หากจะหาหนัง เอเลี่ยนดีๆซะเรื่องหนึ่ง นับว่าห้ามพลาดเรื่องนี้อย่างแน่นอน